Kevin De Bruyne เควิน เดอบรอยน์
เกฟิน เดอ เบรยเนอ (ดัตช์: Kevin De Bruyne, ออกเสียง: [də ˈbrœy̆nə]; เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1991) เป็นนักฟุตบอลชาวเบลเยียมที่พูดภาษาเฟลมิช (ภาษาดัตช์ถิ่นเบลเยียม) เป็นภาษาหลัก ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตีและทีมชาติเบลเยียมในตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือปีกเดอ เบรยเนอเริ่มต้นอาชีพการเป็นนักฟุตบอลกับสโมสรกาแอร์เซ แค็งก์ (KRC Genk) ได้เป็นผู้เล่นตัวจริงและมีส่วนช่วยให้ทีมสามารถคว้าแชมป์เบลเจียนโปรลีก ฤดูกาล 2010–11 ได้สำเร็จ ในปี ค.ศ. 2012 ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรเชลซี แต่ก็ตกเป็นตัวสำรองและยังถูกส่งให้สโมสรแวร์เดอร์เบรเมินยืมตัวด้วย ต่อมาในปี ค.ศ. 2014 ตกลงเซ็นสัญญาร่วมว็อลฟส์บวร์คด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์
เดอ เบรยเนอ ลงเล่นให้กับทีมชาติเบลเยียมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2010 และจนถึงปัจจุบันได้ลงเล่นแล้วมากกว่า 20 นัด เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเบลเยียมที่เข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ในต้นฤดูกาล 2015–16 เดอ เบรยเนอได้ย้ายมาสู่แมนเชสเตอร์ซิตีในพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,960 ล้านบาท) และสัญญา 6 ปี และยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกให้แก่แมนเชสเตอร์ซิตีได้ในนัดที่ 6 ของฤดูกาล ที่แมนเชสเตอร์ซิตีพบกับเวสต์แฮมยูไนเต็ดที่สนามเอติฮัดสเตเดียม โดยเป็นฝ่ายแพ้ไป 1-2 ประตู
หนึ่งในตัวบุกที่ดีที่สุดในยุโรปเป็นที่รู้จักกันดีว่า เควิน เดอ บรอยน์ คือหัวโจกเติมเกมรุกและส่งบอลได้ยอดเยี่ยมของยุโรปและเขาก็นำชื่อเสียงโด่งดังนี้มายังแมนเชสเตอร์ ซิตี่ความคิดสร้างสรรค์ของเควินและการมีสายตาดุจเหยี่ยวที่แสวงหาพื้นที่เจาะแผงหลังเพื่อส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำให้นักเตะทีมชาติเบลเยี่ยมได้ก้าวเข้ามาร่วมทัพเรือใบสีฟ้าในฤดูกาล 2015/16
เขาเริ่มต้นค้าแข้งที่เกงค์ ทีมฝั่งเบลเยี่ยม โดยได้ไต่ขึ้นไปเป็นตัวจริงของชุดใหญ่ในโปร ลีก และได้เป็นส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ ช่วยทำ 17 ประตู และยิงหกประตู จากทุกรายการหลังจากที่อยู่กับเกงค์ได้สามปี เขาตัดสินใจมาค้าแข้งที่เกาะอังกฤษโดยเซ็นสัญญากับเชลซีในเดือนมกราคม ปี 2012 แต่เขายังคงอยู่กับเกงค์จนสิ้นสุดซีซั่น 2011/12ต่อจากนั้นเขาถูกเวอร์เดอร์ เบรแมนยืมตัวไปในฤดูกาล 2012/13 ได้โชว์ฟอร์มสุดคมให้แฟนๆ บุนเดสลีกาได้ยลในฤดูกาล 2012-13 เหนี่ยวไกใส่ข้าศึก 10 ประตู จากการเป็นตัวจริง 34 นัด
แม้เขาได้นำความสำเร็จกลับมาให้สิงห์บลูแต่น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสโชว์ฝีมือมากนัก ได้ลงเล่นเพียงเก้านัด และต้นสังกัดก็อนุญาติให้เขาย้ายออกในช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคม 2014 โดยเขาย้ายกลับไปแผลงฤทธิ์ต่อที่บุนเดสลีการ่วมกับวูลฟ์เบิร์กเพลย์เมกเกอร์ผู้นี้ได้ทำลายสถิติบุนเดสลีกาด้วยการส่งบอลมากที่สุดถึง 21 ครั้งในฤดูกาล 2014/15 และทำให้ทีมไต่ขึ้นไปเป็นอันดับสองบนตารางบุนเดสลีกา และคว้าถ้วยเยอรมัน คัพ โดยยิง 16 ประตูจาก 51 เกมชื่อเสียงมาพร้อมกับรางวัลแห่งความสำเร็จ เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะดีเด่นประจำปีของบุนเดสลีกาพ่วงด้วยนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมันเช่นเดียวกับฤดูกาลแรกที่เอทิฮัด ทันทีที่หวนคืนเกาะอังกฤษ เควินก็กลายเป็นขวัญใจมหาชนในบัดดลเนื่องจากยอดฟอร์มที่เขาสร้างสรรค์และนำชัยมาให้ทีม
แมนเชสเตอร์ซิตี เดอบรอยน์เป็นแกนหลักในการโจมตีคู่ต่อสู้อย่างมีสไตล์ ผสานกับความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วทำให้เขายิง 16 ประตูและช่วยทำอีก 15 ประตู ที่สำคัญเขาสร้างสถิติใหม่ด้วยการคว้ารางวัลนักเตะดีเด่นประจำเดือนของเอทิฮัดมาได้สี่ครั้งในปีแรกที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้แถมด้วยรางวัลอันทรงเกียรติหลังจากจบฤดูกาล 2015/16 เขากลายเป็นนักเตะดีเด่นประจำปีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เอาชนะมาได้ด้วยคะแนนโหวตท้วมท้นแข้งทองวัยเบญจเพศผู้นี้ยังมีทีเด็ดอีกมากให้ได้เห็นในฐานะนักฟุตบอลวิเศษที่คงจะเสกความสุขมาให้แฟนๆ อย่างแน่นอน